วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานในพิธีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ครบรอบปีที่ 66 ประกอบด้วย การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานฯ พิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานและเจริญพระพุทธมนต์ และการสัมมนาเรื่อง ก้าวไปข้างหน้ากับสภาการศึกษา โดยมีอดีตผู้บริหารสกศ. กรรมการสภาการศึกษา กรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ผู้บริหารและข้าราชการ สกศ. ร่วมงานพร้อมเพรียง ณ ห้องศึกษิตสโมสร และห้องประชุมกำแหง พลางกูร สกศ.

รศ.ดร.ประวิต กล่าวว่า ปีนี้สภาการศึกษาจะขับเคลื่อนการศึกษาประเทศด้วยองค์ความรู้ ได้แก่ นโยบาย แผนและมาตรฐานการศึกษาของชาติสู่การปฏิบัติที่บรรลุเป้าหมาย พร้อมขับเคลื่อนงานกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและระบบธนาคารหน่วยกิตให้เป็นรูปธรรม การร่วมกับองค์กรหลักและในกำกับกระทรวงศึกษาธิการดำเนินนโยบาย Thailand Zero dropout ของรมว.เพิ่มพูน ชิดชอบ นอกจากนี้มีการเตรียมความพร้อมในการเป็นสมาชิก OECD และปี พ.ศ. 2570 สกศ. จะร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม IEA จากที่กล่าวมา สภาการศึกษาใช้ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กรแบบ Research Unit

ดร.สุภัทร จำปาทอง อดีตเลขาธิการสภาการศึกษาคนที่16  กล่าวว่า สภาการศึกษาต้องมีบทบาทในการพัฒนานโยบายและแผนการศึกษา การติดตามประเมินผลการศึกษา การวิจัยการศึกษา การพัฒนากฎหมายการศึกษา การจัดทำ Big Data และควรมีการพัฒนาเครือข่ายภาคเอกชน ชุมชน อุตสาหกรรม เข้ามาช่วยในการจัดการศึกษารูปแบบใหม่ในอนาคต

ดร.อรรถการ ตฤษณารังสี กรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ กล่าวว่า สภาการศึกษาต้องมียุทธศาสตร์หลักและยุทธศาสตร์เสริม และสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายในการทำงาน ร่วมกันอย่างใกล้ชิด เช่น การทำ Big Data ครูจะเกษียณอายุราชการในอีก 5 ปีข้างหน้าสอนวิชาใดบ้าง เพื่อจะได้วางแผนในการผลิตกำลังครูเพื่อมาชดเชย

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เห็นความสำคัญของการปูพื้นฐานการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย และสภาการศึกษาควรบูรณาการระหว่างกระทรวงและกลไกการทำงานให้มากขึ้น ทั้งนี้ควรให้ความสำคัญในเรื่อง การขอใบอนุญาตให้สามารถนำไปใช้ได้ในอีก 10ปีข้างหน้า โดยอนาคตสามารถนำประสบการณ์ความสามารถไว้ในบัตรประชาชน และให้ผู้เรียนได้ฝึกงานกับภาคเอกชน

นายบุญเลี้ยง ไขษรศักดิ์ กรรมการสภาการศึกษา กล่าวว่า สภาการศึกษาเป็นหน่วยงานที่สำคัญต้องมีการนำเสนอข้อมูลการศึกษาได้อย่างรวดเร็ว และมีการวิเคราะห์ข้อมูลให้ครอบคลุม โดยไม่อยากให้งบประมาณเป็นข้อจำกัดในการทำงาน 

สุดท้ายเป็นพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น และประกาศนียบัตรแก่บุคลากรดีเด่น ด้านคุณธรรม จริยธรรม ประจำปี พ.ศ.2567 ได้แก่ นางสาวทตายา รัชตาธิวัฒน์ นิติกรชำนาญการ