รองนายกฯ “อนุทิน” จับมือ 4 กระทรวง ร่วมพัฒนาคน พัฒนาชาติ พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หวังปลูกจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจประวัติศาสตร์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำทัพผู้บริหารมหาดไทย แรงงาน อุดมศึกษาฯ และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ในการประชุม “การสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ เป็นคนที่มีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นสถาบันสำคัญของชาติ” และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง “แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทย สร้างจิตสำนึกความเป็นไทย” โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเจ้าภาพให้การต้อนรับ
กระทรวงศึกษาธิการ 17 พฤศจิกายน 2566 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุม “การสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ ปลูกจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นสถาบันสำคัญของชาติ” โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวง ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และผู้บริหารเข้าร่วมประชุม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มท. กล่าวว่า ภารกิจของ 4 กระทรวง (ศธ. มท. อว. รง.) ที่อยู่ในกำกับ อยากให้มีเป้าหมายและภารกิจในแนวทางเดียวกันคือ “การพัฒนาคน พัฒนาชาติ” โดยเฉพาะทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุดคือทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งมีความจำเป็นต้องบูรณาการกำกับดูแลร่วมกันเป็นแบบ cluster ถึงแม้ในการดำเนินการจะเริ่มจากการเมือง แต่เมื่อได้กำกับดูแลเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของประชาชน การศึกษา และความมั่นคงของประชาชน จึงมีความมุ่งหวังให้ทั้ง 4 กระทรวง ดำเนินนโยบายสอดประสานและส่งเสริมซึ่งกันและกัน
เริ่มจากกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีหน้าที่ในการพัฒนาประชากรตั้งแต่วัยแรกเริ่ม ปลูกฝังค่านิยมที่ดี และสร้างวิวัฒนาการที่ทันสมัย ส่งไปยังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ถือเป็นมันสมองของประเทศ เน้นพัฒนาองค์ความรู้ ส่งเสริมศักยภาพของคน ศักยภาพทางการศึกษา เทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับอุดมศึกษา จากนั้นส่งไม้ต่อให้กระทรวงแรงงานรับหน้าที่สร้างโอกาสการทำงาน โดยมีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ช่วยออกใบประกอบคุณวุฒิวิชาชีพ ให้การรับรองความสามารถเฉพาะทาง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานของประชาชนตามความสามารถ
ส่วนกระทรวงมหาดไทย มีภารกิจต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนและประเทศชาติ ตามแนวทาง “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” เพื่อพัฒนาคนให้มีคุณภาพครบวงจร โดยเน้นย้ำในการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการ เพื่อที่จะได้ข้าราชการที่เป็นแบบอย่างที่ดี มาสืบทอดจิตสำนึกในการรักชาติ ปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
“ขณะเดียวกันต้องขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการที่กำหนดนโยบายต่าง ๆ ออกมา ทั้งนโยบายการลดภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาทุกระดับ ส่งผลให้มีการเพิ่มโอกาสในการหารายได้ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการส่งเสริมการศึกษา ซึ่งสามารถตอบสนองนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปของโลกได้ การดูแลสวัสดิการ สวัสดิภาพของผู้เรียนให้มีความปลอดภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อกำกับดูแลควบคุมปัญหาต่าง ๆ รวมถึงความรุนแรงในเด็กและเยาวชนที่อาจเกิดขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านการศึกษาของประเทศ ตระหนักดีถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพราะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าตามเป้าหมายที่วางไว้ ศธ.จึงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการศึกษาในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา อุดมศึกษา และการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม เพรียบพร้อมด้วยทักษะความรู้ ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพ สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้เป็นอย่างดี
“การประชุมฯ ครั้งนี้ เป็นเวทีที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางปฏิบัติร่วมกัน ในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย เข้าใจความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ สามารถดำรงตนเป็นพลเมืองดีที่ มีความรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งการร่วมมือกันระหว่าง 4 กระทรวง จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของรัฐบาล เพื่อร่วมกันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้มีคุณภาพ มีทักษะความพร้อม สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างยั่นยืน โดยเฉพาะภาคราชการ ซึ่งผู้ที่จะเข้ารับราชการนอกจากจะต้องมีความรู้ความสามารถในสาขาต่าง ๆ แล้ว ต้องมีทัศนคติที่ดีในการดำรงตนเป็นข้าราชการที่ดี ภาคภูมิใจและเข้าใจในความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 4 กระทรวง “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาติ สร้างจิตสำนึกความเป็นไทย” ร่วมกับ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มท. กล่าวว่า เรามีเป้าหมายและภารกิจร่วมกันคือการพัฒนาคนและพัฒนาชาติ ให้ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของประเทศ คือ ทรัพยากรมนุษย์ ได้รับการเสริมสร้างและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้มีความสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เรามี ศธ.ที่คอยโอบอุ้มพัฒนาประชากรวัยแรกเริ่ม ปลูกฝังค่านิยมที่ดีและวิชาการที่ทันสมัย มี อว. ที่ถือเป็นในสมองของชาติ เน้นการพัฒนาองค์ความรู้การวิจัย สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ มีกระทรวงแรงงาน ที่ส่งเสริมศักยภาพสร้างโอกาสในการทำงาน ดูแลสวัสดิการที่ดี ตลอดจนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพซึ่งออกประกาศนียบัตรรับรองความสามารถและทักษะฝีมือให้แก่คนทำงาน ไปจนถึงผู้ที่ไม่มีโอกาสที่ดีที่จะได้เล่าเรียนศึกษา ไม่มีใบปริญญา ไม่มีใบประกาศนียบัตร แต่หากมีทักษะพิเศษ มีความสามารถพิเศษทางด้านความชำนาญต่าง ๆ ทางสถาบันวิชาชีพจะพิจารณาในการออกใบรับรองเพื่อให้นำไปประกอบอาชีพต่อไป
“การมอบนโยบายวันนี้เป็นเพียงการต่อยอดนโยบายต่าง ๆ ที่มีการขับเคลื่อนมาอยู่แล้ว แต่ขอเน้นย้ำให้ทุกคน ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานร่วมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากทั้งหน่วยงาน ส่วนราชการ และข้าราชการการเมือง ดำเนินการตามนโยบาย 4 กระทรวงหลักอย่างเข้มข้น ในการสร้างสังคมที่สงบสุข สร้างความภาคภูมิใจในแผ่นดินไทย และเชื่อมั่นว่าทุกคนมีความสามารถในการพัฒนาประเทศได้” นายอนุทิน กล่าว