วันนี้ (๒๐ กันยายน ๒๕๖๖) ดร.สวัสดิ์ ภู่ทอง รองเลขาธิการสภาการศึกษา ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายและแผนการศึกษา ครั้งที่ ๗/๒๕๖๖ โดยมี ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เป็นประธาน พร้อมด้วย นางรัชนี พึ่งพาณิชย์กุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษา รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา คณะอนุกรรมการฯ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ร่วมหารือ ณ ห้องกำแหง พลางกูร ชั้น ๓ อาคาร ๕๖ ปี สกศ. ควบคู่กับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Cisco WebEx

คณะอนุกรรมการฯ รับฟังรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะทำงานขับเคลื่อนวาระเร่งด่วนด้านการศึกษา (Quick Win) ๔ ด้าน ได้แก่ ๑) ระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) ๒) การจัดการศึกษาสำหรับผู้มีความต้องการจำเป็นพิเศษ (กรณีผู้มีความสามารถพิเศษ) ๓) มาตรการส่งเสริมการลงทุนด้านการศึกษาด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน และ ๔) การพัฒนาและเสริมสร้างสมรรถนะบุคลากรและระบบการบริหารการศึกษาภายใต้ Digital Transformation (กรณี HRD, Database และ AI : ChatGPT) เพื่อนำมาต่อยอดในการปรับปรุงแผนการศึกษาแห่งชาติให้ตอบโจทย์บริบทที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต

โดยที่ประชุมได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความเห็นและสะท้อนปัญหาการขับเคลื่อน Quick Win ทั้ง ๔ ด้าน โดยมีแนวทางพัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit bank) ครอบคลุมทุกระดับไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงบูรณาการกับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) แต่ทั้งนี้ยังต้องมีการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางในการเก็บข้อมูล รวมถึงเล็งเห็นให้มีการตั้งสำนักงานธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ตลอดจนการเร่งจัดทำแผนพัฒนาและส่งเสริมสนับสนุนผู้มีสามารถพิเศษ รวมถึงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Public Private Partnership: PPP) ภายใต้มาตรการและสิทธิประโยชน์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ อาทิ การปรับปรุงห้องเรียน ห้องทดลอง อุปกรณ์ทางการศึกษา และภายใต้ Digital Transformation เน้นสร้างทักษะด้านดิจิทัลให้แก่ข้าราชการ ครู บุคลากรทางการศึกษา ผ่านศูนย์พัฒนาสมรรถนะเทคโนโลยีดิจิทัลของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงาน ก.พ. ศูนย์ HCEC และ สคบศ. เป็นต้น เพื่อรู้เท่าทันและสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม

จากนั้นที่ประชุมร่วมพิจารณา โครงร่างแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ เพื่อเป็นกรอบในการกำหนดทิศทางการศึกษา โดยจะเป็น “แผนชี้ทิศ” ที่กระชับเข้าใจง่าย ตัวชี้วัดไม่มาก เข้าใจง่าย มีความยืดหยุ่น สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งเป็นแผนที่สามารถส่งมอบคุณค่าให้กับสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เน้นส่งเริมการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมยั่งยืนในทุกช่วงวัย เพื่อก่อให้เกิดการศึกษาเพื่อปวงชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ สกศ. จะมีการทำ Road map เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการดำเนินงานสู่การวิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางการศึกษาต่อไป