วันนี้ (๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๖) เลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ) ในฐานะกรรมการกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนประจำประเทศไทย (Thailand AQRF Committee) นำทีมประเทศไทย ร่วมประชุมคณะกรรมการกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน ครั้งที่ ๑๒ (The 12th Meeting of ASEAN Qualifications Reference Framework (AQRF) Committee) โดยมี คณะกรรมการและผู้แทนจากหน่วยงานด้านกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (ASEAN Qualifications Reference Framework - AQRF) จากประเทศสมาชิกอาเซียน อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และบรูไนดารุสซาลาม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (นางรัชนี พึ่งพาณิชย์กุล) พร้อมด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ (ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม) คณะทำงาน ข้าราชการและบุคลากร สกศ. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องพจน์ สะเพียรชัย ชั้น ๕ อาคาร ๒ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ควบคู่กับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Microsoft Teams

.

.

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖ เป็นเวทีที่กรรมการกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เทคนิค การดำเนินงาน และความก้าวหน้าเกี่ยวกับระบบการศึกษาตาม AQRF  โอกาสนี้ ประเทศที่แสดงเจตจำนงเทียบเคียง ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมาร์ ได้รายงานความก้าวหน้าในเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (National Quality Framework - NQF) ของแต่ละประเทศ กับ AQRF ในระดับอาเซียน

.

.

สำหรับประเทศไทยได้มีการขับเคลื่อนงาน NQF เพื่อพัฒนาสมรรถนะกำลังคน และเตรียมเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) กับกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) และสากล ดังนี้

๑) พัฒนาระบบการขึ้นทะเบียนหลักสูตรตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ในรูปแบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่ Thailandnqf.org

๒) พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนในระดับ ปวช. และ ปวส. ให้สอดคล้องกับ คุณวุฒิวิชาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) มาตรฐานฝีมือแรงงาน แห่งชาติของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือมาตรฐานสากล ณ ปัจจุบันมีการพัฒนาในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ใน ๑๐๑ สาขาวิชา

๓) พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมฐานสมรรถนะ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ/คุณวุฒิ อาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือมาตรฐานสากล โดยดำเนินการในโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน พร้อมเตรียมขยายผลไปยังสถานศึกษาในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้

๔) ใช้กรอบคุณวุฒิแห่งชาติเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ โดยวางแผนการดำเนินการทั้งในระดับชาติ ระดับจังหวัด และระดับสถานศึกษา

.

.

จากนั้น วงประชุมแบ่งกลุ่ม Focus Group แลกเปลี่ยนความเห็น ๓ ด้าน คือ การรับรองคุณวุฒิร่วมกันผ่านระบบดิจิทัลของประเทศสมาชิกอาเซียน การประกันคุณภาพคุณวุฒิ และการพัฒนา/ปรับปรุงการเทียบเคียง เพื่อใช้สำหรับการขอเทียบเคียงจากประเทศที่สาม หรือกรอบคุณวุฒิระดับภูมิภาคอื่นกับกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนต่อไป