.
เมื่อระหว่างวันที่ ๒ - ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) โดยสำนักกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (สกช.) ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมติดตาม และบูรณาการการขับเคลื่อนงานผลิตและพัฒนากำลังคนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ กรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและการมีงานทำ โดยมี เลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ) เป็นประธาน ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา (นางรัชนี พึ่งพาณิชย์กุล) พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม ดร.ศรายุทธ ทองอุทัย นางสุมิตรา ทองแสง ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดภูเก็ต สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โรงเรียนเอกชนนอกระบบในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เข้าร่วมประชุม  ณ จังหวัดภูเก็ต ควบคู่กับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Cisco WebEx 
.
ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเยี่ยมชมการเรียนการสอน และประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอนในสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และเป็นสาขาที่ไทยมีศักยภาพในระดับอาเซียนและสากล เพื่อวางแผนการทดลองเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียนและสากล โดยได้มีการเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา ๓ แห่งที่ได้รับการรับรองให้เป็นศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา หรือศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (CVM) ได้แก่ ๑) วิทยาลัยเทคนิคถลาง สาขาช่างอากาศยาน  ๒) วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต สาขาช่างซ่อมบำรุงเรือยอร์ช และ ๓) วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต สาขาโรงแรมและอาหาร โดยสถาบันดังกล่าวได้มีการนำมาตรฐานของสากลมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน นอกจากนี้ ยังมีการหารือกับวิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต และวิทยาลัยเทคโนโลยีภูเก็ต เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมที่เปิดสอน  โดยมุ่งหวังให้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดต้นแบบในเรื่องการพัฒนาการศึกษาภายใต้กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับระบบเครดิตแบงก์  การ Upskill/Reskill เป็นการยกระดับสมรรถนะกำลังคนตอบสนองต่อความต้องการของบริบทพื้นที่ นอกจากนี้ สกศ. ยังได้หารือแนวทางในการจัดกิจกรรมกรอบคุณวุฒิสัญจร ในช่วงเดือนกันยายน ๒๕๖๖ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่หน่วยงานและสถานศึกษา รวมถึงแนวทางความร่วมมือในการพัฒนากำลังคนในพื้นที่ให้มีสมรรถนะตอบโจทย์และสนองต่อความต้องการของบริบทพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
.
ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากำลังคนเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (National Qualifications Framework หรือ NQF) เป็นการสร้างความเชื่อมโยงของระบบคุณวุฒิการศึกษาของประเทศกับระดับมาตรฐานการปฏิบัติงาน ภายใต้กรอบผลลัพธ์การเรียนรู้ ๘ ระดับ โดยให้ความสำคัญกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องของบุคคล เปิดโอกาสให้มีการประเมินเพื่อเทียบโอนประสบการณ์ และการเรียนรู้นอกระบบ เพื่อเพิ่มพูนคุณวุฒิการศึกษาที่ต้องการ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วย ในส่วนกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (ASEAN Qualifications Reference Framework หรือ AQRF) เป็นกรอบที่ใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนา และจัดประเภทคุณวุฒิ โดยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและกรอบคุณวุฒิระดับภูมิภาค เพื่อใช้เป็นกรอบแกนกลางในการอ้างอิงกับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของประเทศสมาชิกหนึ่งกับอีกประเทศสมาชิกหนึ่ง ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็น ๑ ใน ๑๐ ประเทศในอาเซียน ที่มีการดำเนินงานจัดทำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติเชื่อมโยงกับกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน การดำเนินงานของ สกศ. ทำให้เกิดทีมประเทศไทยในการร่วมมือกันขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ อีกทั้ง สกศ. ยังมุ่งหวังอยากเห็นแต่ละจังหวัดมีสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเป็นโซ่ทองที่จะผนึกกำลังของภาคการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับกำลังคนในพื้นที่ให้มีสมรรถนะสูงต่อไป
.
นางรัชนี พึ่งพาณิชย์กุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา กล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมา สกศ. พร้อมด้วยคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมฐานสมรรถนะของโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน ซึ่งภายหลังจากการประชุมได้มีการพัฒนาหลักสูตรและนำเสนอหลักสูตรดังกล่าวไปยังหน่วยงานต้นสังกัด โดยได้รับความเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว และเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา สกศ. จัดประชุมหารือเพื่อรับทราบความก้าวหน้าในการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบ ๔ แห่ง ได้แก่ โรงเรียนดนตรีสยามกลการนครภูเก็ต โรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยภาพ โรงเรียนสอนภาษาภูเก็ตราไวย์ และโรงเรียนภาษาราฟเฟิลส์ ไทยแลนด์ เอคซะเลนซ์ โดยต้องการติดตามความก้าวหน้าในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของโรงเรียนเอกชนนอกระบบ รวมถึงขยายผลการดำเนินการดังกล่าวไปยังสถานศึกษา หรือสถาบันฝึกอบรมในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาอีกด้วย
.
ทั้งนี้ สกศ. จะรวบรวมข้อมูลและข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ที่ได้รับจากการลงพื้นที่ นำไปจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายในการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติเพื่อการยกระดับการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศให้มีสมรรถนะสูงต่อไป