วันนี้ (วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖) สำนักพัฒนากฎหมายการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้จัดประชุมสัมมนา เรื่อง การส่งเสริมความรู้ด้านกฎหมายการศึกษาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ณ โรงแรมสยามแกรนด์ จังหวัดอุดรธานี โดยได้รับเกียรติจากนายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดการประชุมและบรรยายพิเศษ เรื่อง การสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาการศึกษา

.

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา บรรยายพิเศษ เรื่อง การสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาการศึกษา โดยได้กล่าวถึงสภาพปัญหาของการจัดการศึกษาในปัจจุบัน โดยเฉพาะความซ้ำช้อนไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันในการจัดการศึกษาของหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงศึกษาธิการ จึงได้มีจัดทำร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ ซึ่งการพิจารณาก็มีการหยุดชะงัก อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวก็ยังไม่ตกไป หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็สามารถนำกลับมาพิจารณาใหม่ได้ ถ้าหากมีการยกร่างใหม่ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาก็นำข้อเสนอแนะที่ได้จาการรับฟังความคิดเห็นประกอบการการยกร่างต่อไป

.

ต่อมา ได้กล่าวถึงภารกิจสำคัญที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากำลังดำเนินการ ดังนี้

๑. การขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมการจัดการศึกษาของทุกภาคส่วน โดยให้แต่ละจังหวัดมีแผนการการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ตามความต้องการของผู้เรียน และนำมาขับเคลื่อนในการจัดการศึกษาอย่างจริงจัง เช่น ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง จังหวัดชายแดนต้องจัดการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ภาคตะวันออกต้องจัดการศึกษาเพื่อการแข่งขัน กรุงเทพและปริมณฑลต้องจัดการศึกษาเพื่อมุ่งความเป็นเลิศ

แผนการการศึกษาจังหวัด เน้นการมีส่วนร่วมของแต่ละภาคส่วนที่มีส่วนได้เสีย เช่น นักเรียน ผู้ปกครอง ซึ่งปัจจุบันมีจังหวัดนำร่อง ๙ จังหวัด จัดทำแผนการศึกษาจังหวัดเสนอรัฐมนตรี และจะขยายผลให้ครบทั้งประเทศต่อไป

๒. ธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ ซึ่งสามารถเชื่อมโยง เทียบโอนประสบการณ์จากการทำงานมาเป็นหน่วยกิต เพื่อจบการศึกษา โดยเฉพาะการศึกษานอกระบบ และทุกระดับ ทั้งนี้ ธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติก็มีการเชื่อมโยงภายใต้กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ

๓. N๐ Gift Policy ในการรับทรัพย์สินสิ่งของต่าง ๆ ในฐานะข้าราชการ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่ ต้องรีบแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบโดยเร็ว และให้ผู้บังคับบัญชาเก็บไว้ ๑ ปี เพื่อนำส่งคืนผู้ให้ ซึ่งถ้าไม่เจอก็ให้ขายนำเงินส่งคลัง

ต่อมา ได้มีการอภิปราย เรื่อง กลไกการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาการศึกษาในจังหวัด ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิร่วมอภิปราย โดยมีนายวีระ พลอยครบุรี เป็นผู้ดำเนินราย ดังนี้

.

นายสวัสดิ์ ภู่ทอง รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า การจัดการศึกษาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และต้องสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ โดยมีจังหวัดเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน รวมทั้งต้องอาศัยกฎหมายเป็นเครื่องมีการจัดการศึกษา ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น

.

นายสุวัฒน์ชัย แสนราช ศึกษาธิการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของการจัดการศึกษามีหลายเรื่อง เช่น กฎหมายขาดความชัดเจน นำไปสู่การปฏิบัติยาก การจัดการศึกษามีความซ้ำซ้อนไม่มีความเป็นเอกภาพ มีหลายหน่วยงานที่จัดการศึกษาซึ่งมีหลักสูตรไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งในส่วนของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดอุดรธานีได้มีการจัดทำแผนการศึกษาจังหวัด โดยให้มีหลักสูตรต่อเนื่องเชื่อมโยงของแต่ละรูปแบบการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ

.

นายศักดิ์ชาย อุปศักดิ์ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ อบจ.อุดรธานี กล่าวว่า การจัดการศึกษาของโรงเรียนที่อยู่ในสังกัด อบจ.อุดรธานี ได้มีการจัดการศึกษาตามความสนใจของผู้เรียน โดยจัดให้มีโรงเรียนนำร่องในการจัดการศึกษาด้านต่าง ๆ เช่น ด้านภาษา กีฬา มีการจัดแผนการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับแผนการศึกษาจังหวัด และ อบจ.อุดรธานี ได้จัดสรรงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาเป็นจำนวนมาก

.

นายชัยรัตน์ หลายวัชระกุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า ปัญหาการศึกษามีความสลับซับซ้อน โดยหลายสาเหตุ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับบริบทปัจจุบัน คือ ต้องมีการกระจายอำนาจในการจัดการศึกษา การจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวกับการศึกษาต้องคำนึงถึง การศึกษาตลอดชีวิตทุกช่วงวัย การศึกษาเพื่อการมีงานทำ มีหลักสูตรที่เปิดกว้าง ครูต้องมีทักษะที่หลากหลาย และที่สำคัญต้องมีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษา

.

ในส่วนของการจัดการศึกษาต้องมีสภาการศึกษาจังหวัดหนองคาย ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิของภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าภาครัฐ ภาคประชนชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาหรือด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และต้องมีกฎหมายรองรับ มีงบประมาณ และบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน

ในช่วงบ่าย ได้รับได้รับเกียรติจากนายประนัย วณิชชานนท์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด บรรยาย เรื่อง หลักกฎหมายปกครองและแนวทางการปฏิบัติราชการตามคำวินิจฉัย โดยเน้นยำถึงการบริหารงานบุคคลภาครัฐต้องคำนึงถึงระบบคุณธรรม กล่าวคือ ใช้หลักความสามารถ ความเสมอภาค และความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการสรรหา การบรรจุแต่งตั้ง การเลื่อนตำแหน่ง การเลื่อนเงินเดือน และการพ้นจากตำแหน่ง การบริหารงานบุคคลภาครัฐโดยที่ละเลยระบบคุณธรรม อาจมีการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ซึ่งศาลปกครองสุดก็ได้มีการวินิจฉัยโดยมีคำพิพากษาให้มีการยกเลิก เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว

.

ทั้งนี้ การประชุมสัมมนาดังกล่าว จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๖ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน ๑๕๐ คน ประกอบด้วย ผู้บริหารท้องถิ่น และบุคลากรของหน่วยงานที่จัดการศึกษาของกระทรวงอื่น นักกฎหมายการศึกษาของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา ประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ