วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา โดยสำนักพัฒนากฎหมายการศึกษา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาคนในยุคดิจิทัลให้มีคุณภาพเพื่อการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตที่ถูกต้องตามกฎหมายสอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ณ โรงแรม The Hotspring Beach จังหวัดพังงา

     นายอรรถพล  สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมและบรรยายพิเศษเรื่อง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในยุคดิจิทัลให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน โดยได้เน้นย้ำใน ๓ ประเด็นสำคัญ ดังนี้

     ประเด็นที่ ๑ เรื่อง บทบาทของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

     “สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่จัดทำความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายการศึกษาเสนอต่อรัฐมนตรีและสภาการศึกษา ดังนั้นจึงต้องเป็นผู้นำในการวางแนวทาง รูปแบบ การวางแผนการพัฒนาคนในยุคดิจิทัล และการพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายการศึกษาเกี่ยวกับด้านการใช้งานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร เพื่อให้พัฒนาการศึกษาของประเทศ”

     ประเด็นที่ ๒ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปฏิรูประบบการเรียนการสอน

     “หน่วยงานรัฐและหน่วยงานภายในกระทรวงศึกษาธิการ ต้องร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ แบบเรียน ตำรา หนังสือทางวิชาการ ในรูปแบบสื่อเทคโนโลยี พัฒนาผู้ใช้งาน ผู้เรียน ครู และส่งเสริมการศึกษาให้เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม มีคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมทั้งระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องต้องเข้าใจแนวทางตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ (PDPA : Personal Data Protection Act)” ซึ่งเป็นกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จะยกระดับความโปร่งใสในการรวบรวม การจัดเก็บข้อมูลให้สามารถตรวจสอบได้ องค์กรสามารถนำข้อมูลมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

     ประเด็นที่ ๓ การใช้ประโยชน์จากระบบฐานข้อมูลกลาง (Big Data)

     “ด้านการวางแผนการผลิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สามารถนำข้อมูลในระบบฐานข้อมูลกลาง (Big Data) มาวิเคราะห์ คาดการณ์ และวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการบุคลากรในแต่ละด้าน ผลิตบุคลากรทางด้านไอที วิศวกรเฉพาะด้าน และด้านอื่น ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ต่อไป”

     รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สวัสดิ์ ภู่ทอง) ได้กล่าวถึงความจำเป็นและความสำคัญของการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว่า “ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา  และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องมีความรู้ความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการถูกดำเนินการทางวินัย และเพื่อป้องกันการกระทำผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๐”

     ในการประชุมระดมความคิดจากทั้งวิทยากรและผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งประกอบด้วยผู้อำนวยการสำนักพัฒนากฎหมายการศึกษา (นายสมพงษ์ ผุยสาธรรม) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย (นายสมบูรณ์ แต่งเกลี้ยง) และผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายณัฐ พยงค์ศรี) ได้ร่วมกันเสนอเกี่ยวกับแนวทางการจัดทำแผนการพัฒนาบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ ครู ผู้เรียน ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร และกฎหมายเพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการเรียนรู้และการสื่อสารของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ ครู และผู้เรียน โดยที่ประชุมเห็นว่า ควรตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสม อาทิ การละเมิดลิขสิทธิ์ การสูญเสียความเป็นส่วนตัว การโจรกรรมข้อมูล การโจมตีทางไซเบอร์ เป็นต้น โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันปรับปรุง สนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาการจัดการเรียนการสอนโดยการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร และร่วมมือกันเป็นเครือข่ายการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมด้วย ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 23 มีนาคม ๒๕๖๕ โดยครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกภาคส่วน