ปิดฉาก OEC Symposium ๑๖ - อำนาจ - ท้าทายครู-ห้องเรียน-บ้าน แก้โจทย์วิจัยภาวะถดถอยการเรียนรู้ของเด็กยุคโควิด-๑๙
วันนี้ (๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔) ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวปิดท้ายการประชุมการวิจัยทางการศึกษาระดับชาติของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ครั้งที่ ๑๖ "นวัตกรรมการศึกษา : กล้าเปลี่ยน สร้างสรรค์ ยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย" (OEC Symposium) ระหว่างวันที่ ๒๖ - สิงหาคม ๒๕๖๔ ย้ำจุดเน้นสำคัญว่า นักวิจัยต้องไม่ทำงานวิจัยให้น่ากลัว เพราะมีทั้งงานวิจัยมหภาค (Macro) ที่มี สกศ. เป็นต้นแบบกรอบแนวคิดเป็นต้นทุน ส่วนงานวิจัยระดับจุลภาค (Micro)คือ งานวิจัยระดับบุคคลนั้น จุดเริ่มต้นต้องมาจากการมีเหตุและผล แสวงหาคำตอบ ครูต้องปลูกฝังแนวคิดของนักวิจัยเริ่มจากในห้องเรียนสังเกตแนวทางวิธีสอน ลักษณะเด็กแต่ละคนแล้วออกแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสมสอดคล้องไปเป็นรายบุคคล ถือเป็นนิสัยนักวิจัยที่ต้องกระตุ้นให้เกิดขึ้นกับครู เพราะการตอบโจทย์แท้จริงคืองานวิจัยนำไปใช้ได้จริงด้วยแนวคิดและวิธีการใหม่ ๆ อีกทั้งปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของเด็กกำลังเป็นความท้าทายใหม่ในยุคโควิด-๑๙ งานวิจัยอาจต้องเปลี่ยนไปที่บ้านจากการเรียนการสอนของพ่อแม่ แนวคิดเปลี่ยนไปจากนักเรียนเป็นผู้เรียน สะท้อนให้เห็นว่าโควิด-๑๙ คือแรงกระตุ้นให้เกิดการค้นหาความความรู้จากสื่อต่าง ๆ ทำอย่างไรจะทำให้ครูมีนิสัยวิจัยและไม่กลัวการวิจัย จุดเริ่มต้นนับหนึ่งที่ตัวเราเอง คนรอบข้าง จนนำไปสู่การสื่อสารตั้งโจทย์งานวิจัยการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ
ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ กล่าวด้วยว่า ภายใต้แนวคิด นวัตกรรมการศึกษา : กล้าเปลี่ยน สร้างสรรค์ ยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย ขอแสดงความยินดีกับนักวิจัยทุกท่านทั้งที่ได้รับรางวัลงานวิจัยดีเด่นและรางวัลชมเชย รวมถึงนักวิจัยทุกท่านที่ผ่านการคัดเลือกให้เสนองานวิจัยในงาน OEC Symposium ครั้งที่ ๑๖ ถือว่าการประชุมนี้ประสบความสำเร็จดังวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ทุกประการ ขอบคุณหน่วยงาน องค์กร และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สนับสนุนเป็นอย่างดี สกศ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานประชุมวิชาการจะเป็นแรงผลักดันและเป็นกำลังใจให้นักวิจัยทุกท่านในการผลิตผลงานวิจัยทางการศึกษาที่มีคุณภาพในอนาคต รวมทั้งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้รับชมจะนำผลงานการวิจัยทางการศึกษาที่มีคุณภาพไปใช้ประโยชน์พัฒนาการศึกษาเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานการศึกษาตามนโยบายของรัฐบาลมากขึ้น รวมทั้งขยายเครือข่ายการวิจัยทางการศึกษาให้เกิดความร่วมมือรวมพลังในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยใช้การวิจัยเป็นฐานต่อไป อย่างไรก็ดี สกศ. จะนำข้อเสนอแนะและผลการประเมินการประชุม OEC Symposium ครั้งที่ ๑๖ เป็นข้อมูลใรการวางแผนพัฒนาทางการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและความเหมาะสมมากขึ้น
ทั้งนี้ ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา ได้มอบรางวัลผลงานวิจัย OEC Symposium ครั้งที่ ๑๖ ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะผู้ทรงคุณวุฒิ สรุปจำนวน ๘ รางวัล ดังนี้
.
ระดับดีเด่น จำนวน ๔ รางวัล
"ผลของการจัดการเรียนการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์และคุณภาพผลงานเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา" โดย นายจักรกฤต ภุชงค์ประเวศ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม
การพัฒนารูปแบบการชี้แนะเพื่อส่งเสริมทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ สำหรับครูระดับมัธยมศึกษา"
โดย ดร.ธนา ธุศรีวรรณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ
"การพัฒนาหลักสูตรโลกศึกษาที่เสริมสร้างสมรรถนะสากลสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย"
โดย ดร.กนก จันทรา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม
.
"แนวทางการพัฒนาระบบบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการศึกษาทางเลือกสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทย"
โดย นายสุริยะ วชิรวงศ์ไพศาล สมาคมส่งเสริมการศึกษาทางเลือก
ผลงานระดับชมเชย จำนวน ๔ รางวัล
"การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างทักษะชีวิตในยุคดิจิทัลสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร"
โดย นางสาวภรณี ศิริวิศาลสุวรรณ โรงเรียนวัดบางปะกอก
"การพัฒนามโนทัศน์ดาราศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาโดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานร่วมกับการมองภาพเชิงปริภูมิ : กรณีศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ม้ง" โดย นายวสุพงษ์ อิวาง โรงเรียนวัดเวฬุวัน
"การวิจัยเพื่อค้นหาและพัฒนาผลลัพธ์ที่คาดหวังต่อผู้เรียนและกรอบสมรรถนะหลักของผู้เรียน"
โดย นายวีรพล วีระโชติวศิน บริษัท เอ็ดไวซอรี่ จำกัด
และ "ผลของการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะโดยใช้แบบจำลองเป็นฐานต่อความก้าวหน้าในการเรียนรู้แนวคิดเรื่องการสังเคราะห์ด้วยแสงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย : กรวิเคราะห์ราชส์"
โดย นางสาวพุฒธิดา รัมมะฉัตร