ผู้ว่าฯติ๊กปลื้มโมเดล"เครดิตแบงก์"ต่อยอดคุณภาพการศึกษา ย้ำเสริมเรียนรู้-เติมทักษะ-สร้างคนดีเมืองปทุมธานี
วันนี้ (๒๓ มีนาคม ๒๕๖๔) รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.พีรศักดิ์ รัตนะ) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) "การจัดการศึกษาและการสะสมหน่วยกิตในระบบธนาคารหน่วยกิต" ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดปทุมธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธาน พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) รักษาการศึกษาธิการภาค ๒ (นายศัจธร วัฒนะมงคล) ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ สพฐ.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) และผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดปทุมธานี ร่วมให้การต้อนรับและเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมสงค์ธนาพิทักษ์ มทร.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ระบบธนาคารหน่วยกิต (เครดิตแบงก์) เป็นการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยกําหนดรูปแบบการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้เรียน สามารถสะสมผลการเรียนรู้ในแต่ละวิชา แต่ละทักษะ องค์ความรู้ที่ต้องการและนำมาสะสมไว้เพื่อการศึกษาต่อในระดับต่าง ๆ โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และ มทร.ธัญบุรี ได้ร่วมมือกันศึกษารูปแบบเคดิตแบงก์ใช้เป็นกลไก/เครื่องมือช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ทำให้ผู้เรียนได้รับโอกาสทางการศึกษาเพิ่มขึ้น ศึกษาต่อและทำงานคู่กันเพิ่มขึ้น กลับเข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น และมีการริเริ่มใช้ระบบเครดิตแบงก์ในเครือข่าย มทร.ทั้ง ๙ แห่งมาระยะหนึ่งแล้ว
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า จังหวัดปทุมโชคดีได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก อบจ.ปทุมธานี ทุ่มงบส่งเสริมพัฒนาการศึกษามากถึง ๒๐ ล้านบาท ความร่วมมือพัฒนาการศึกษาระหว่าง มทร.ธัญบุรี สพม.ปทุมธานี และ อบจ.ปทุมธานี ที่มีระยะเวลา ๓ ปี ระหว่างปี ๒๕๖๔ - ๒๕๖๗ โดยได้รับการส่งเสริมอย่างดีจาก สกศ. ที่เป็นต้นแบบขับเคลื่อนระบบเครดิตแบงก์ที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาและผลักดันคนปทุมธานีบรรลุเป้าหมายสำคัญ ๓ ประการ ๑) ความรู้ สถานศึกษาทั่วจังหวัดมีการบูรณาการพัฒนาการศึกษาร่วมกัน ๒) ทักษะ เร่งส่งเสริมความชำนาญนำไปประกอบอาชีพได้ และ ๓) นิสัยดี เบ้าหลอมสร้างคนดีมีคุณภาพร่วมกันขับเคลื่อนปทุมธานี เพราะการศึกษาคือการสร้างชาติ
ด้าน พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ความสำเร็จของการผลักดันการศึกษาครั้งนี้จะช่วยการสร้างบ้านเกิดเมืองปทุมธานีเจริญพัฒนา ยิ่งขึ้น ต้องอาศัยความรักสามัคคีกันขับเคลื่อนการศึกษาให้ชาวปทุมธานี แม้จะรู้สึกเหนื่อยแต่ต้องช่วยกันพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เต็มที่และเกิดความต่อเนื่อง บัณฑิตจบใหม่ต้องมีอาชีพโดยมีหารือผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมรองรับการทำงานอนาคตของคนปทุมธานีไว้เบื้องต้นแล้ว
จังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง มีเนื้อที่ประมาณ ๑.๕๒ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๙.๕๓ แสนไร่ ระยะทางห่างจากกรุงเทพ ฯ ประมาณ ๒๗.๘ กิโลเมตร มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ ๑.๑๖๓ ล้านคน มีความหนาแน่นของประชากรทั้งจังหวัด ๗๖๒.๕๙ คน/ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองส่วนภูมิภาคออกเป็น ๗ อำเภอ ๖๐ ตำบล ๓๔๕ หมู่บ้าน และการปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย อบจ. ๑ แห่ง เทศบาลนคร ๑ แห่ง เทศบาลเมือง ๙ แห่ง เทศบาลตำบล ๑๘ แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ๓๖ แห่ง
สำนักงานสถิติ จังหวัดปทุมธานี รายงานว่า ในปีการศึกษา ๒๕๖๒ มีสถานศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับอุดมศึกษา โดยมีสถานศึกษาระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษา จำนวน ๓๐๙ แห่ง จำนวนนักเรียน ๑๗๐,๔๙๕ คน จำนวนครู ๙,๙๔๘ คน และในระดับอาชีวศึกษาถึงอุดมศึกษา มีสถานศึกษา ๑๙ แห่ง นักศึกษา ๑๔๖,๗๑๐ คน และอาจารย์ ๖,๕๗๑ คน นอกจากนี้ สำรวจพบข้อมูลมีนักศึกษาภายใต้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย (กศน.) มีจำนวน ๒๘,๒๔๗ คน
การจัดการศึกษาและการสะสมหน่วยกิตในระบบเคดิตแบงก์ ระหว่าง มทร.ธัญบุรี สพม.ปทุมธานี และ อบจ.ปทุมธานี เป็นแนวคิดที่สร้างให้เกิดความร่วมมือโดยกลไกท้อวถิ่นเพื้อส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ และยังเป็นการเพิ่มทักษะให้แก่แรงงานอาชีพเพราะแรงงานอาชีพหลายคนมีประสบการณ์มากแต่เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้ต้องมีการเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพและสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการทำงาน (Upskill & Reskill) ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดเวลา
ดังนั้นหากสถานศึกษาทั่วจังหวัดมีการเปิดเทียบโอนหน่วยการเรียนรู้ระหว่างกันจะทำให้คนวัยทำงานได้มาเพิ่มเติมศักยภาพ หรือช่วยให้ทุกคนสามารถวัดความรู้เพิ่มในส่วนที่มีอยู่หรือทักษะที่ยังขาดอยู่