วันนี้ (๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.พีรศักดิ์ รัตนะ) ร่วมประชุมกับคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบเครือข่ายฐานข้อมูล ภายใต้คณะกรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ที่มี รองศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เป็นประธาน โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
ร่วมประชุม ณ ห้องสิปปนนท์ เกตุทัต ชั้น ๒ อาคาร ๒ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)

     ที่ประชุมหารือการขับเคลื่อนงานภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ โดยมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องจากแผนขับเคลื่อนงาน ๒ ฉบับ ๑) แผนแม่บทการขับเคลื่อนพัฒนากำลังคนด้านช่างอากาศยาน พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๘ 
และ ๒) (ร่าง) แผนปฏิบัติการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาอาชีพที่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕ ซึ่งอยู่ระหว่างขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ

     สกศ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการได้ดำเนินการยกร่างแผนขับเคลื่อนงานและแผนปฏิบัติการของคณะอนุ ฯ เป็นกรอบดำเนินงานที่มีภารกิจหลักคือ สร้างความเชื่อมโยงระบบเครือข่ายฐานข้อมูลรายบุคคล ฐานข้อมูลหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนและการฝึกอบรม รวมถึงฐานข้อมูลระบบคุณวุฒิของหน่วยงานต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) ในรูปแบบระบบแห่งชาติ (National System) ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค 

     ทั้งนี้ องค์ประกอบคุณวุฒิ ๘ ระดับ เทียบกับคุณวุฒิการศึกษา คือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จนถึงระดับปริญญาเอก จะเป็นฐานที่ใช้วัดสมรรถนะของกำลังคน การเทียบเคียงสมรรถนะเข้ากับระดับคุณวุฒิในระบบการศึกษา ซึ่งมีตั้งแต่ระดับ ๑ ถึงระดับ ๘ เทียบเท่าคุณวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ไปจนถึงปริญญาเอกและสามารถเทียบเคียงเข้ากับคุณวุฒิวิชาชีพได้ ขณะนี้ได้นำร่องใน ๗ สาขาอาชีพตามความต้องการของตลาดแรงงาน 

      รองศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ กล่าวว่า ภาพรวมกับพัฒนา NQF จำเป็นต้องมีระบบกลางรองรับการเทียบเคียงระบบคุณวุฒิให้มีความสอดคล้องกับสมรรถนะของผู้เรียนที่มีประสบการณ์ในการทำงานสามารถใช้เทียบโอนคุณวุฒิได้ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องผ่านการทดสอบสมรรถนะ/ประสบการณ์เพื่อเทียบเคียงคุณวุฒิ​ต่อยอดพัฒนา​สมรรถนะกำลังคนเชื่อมโยง​ค่าตอบแทนตามมาตรฐาน​อาชีพ

     อย่างไรก็ดี แนวทางสำคัญของคณะอนุ ฯ เห็นว่าการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูล (Data aria) ไม่ต้องจัดทำใหม่ และสามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม (อว.) และกระทรวงแรงงาน รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีฐานกำลังคนในระบบจำนวน ๑๒ ล้านคน นอกจากนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) เชื่อมฐานข้อมูลกับ ๙ กระทรวง แต่ก็ยังมีการอัปเดตข้มูลยังไม่ทันสถานการณ์และขาดความถูกต้องของข้อมูลรายบุคคล เนื่องจากขาดบุคลากรทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลและบันทึกข้อมูลโดยตรง ซึ่งอนุ ฯ ต้องเร่งทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเชื่อมโยงฐานข้อมูล พัฒนาข้อกำหนดเชิงเทคนิคและบริหารให้แก่หน่วยงานที่เป็นเจ้าของข้อมูล
ในส่วนที่จำเป็นร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ