วันนี้ (๑๑ กันยายน ๒๕๖๓) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ โดยมี เลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สุภัทร จำปาทอง) รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์) คณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร ชั้น ๓ อาคาร ๕๖ ปี สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)

           ที่ประชุมได้หารือกันอย่างกว้างขวางโดยมุ่งเน้นเรื่องความก้าวหน้าในการดำเนินงานจัดทำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๑๕๖๐ เพื่อใช้เป็นกลไกในการเชื่อมโยงระบบการศึกษาสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพที่ตลาดแรงงานยอมรับ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ

           ทั้งนี้ จะมีการจัดทำ (ร่าง) แผนขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕ และการจัดทำต้นแบบในการผลิตและพัฒนากำลังคน ซึ่งมีคู่มือหลักสูตร และฐานข้อมูลที่ใช้ประกอบในการพัฒนา สร้างความร่วมมือในการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน เชื่อมโยงกับคุณวุฒิประเทศอาเซียนและระบบสากล และดำเนินการจัดทำ ปรับปรุงกฎหมาย หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

            สำหรับการจัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕ จะนำไปใช้เป็นต้นแบบการพัฒนาความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรม/กลุ่มอาชีพ โดย ครม. มีมติรับทราบการดำเนินการวางแผนผลิตกำลังคนในสาขาช่างอากาศยาน อีกทั้งยังจัดทำแผนงานการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศ ๗ สาขา ได้แก่ โลจิสติกส์โครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์และซัพพลายเชน หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และดิจิทัลคอนเทนต์ อาหารและเกษตร  ปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ พลังงานและพลังงานทดแทน และแม่พิมพ์ โดยอยู่ในระหว่างนำเสนอ ครม.

            การเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของประเทศไทยกับกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน เป็นการนำร่องตามแผนงานเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนของสำนักเลขาธิการอาเซียนในโครงการเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน ระยะที่ ๔ และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน

            เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ที่ประชุมมีข้อเสนอให้ทบทวนแผนการดำเนินงานเพื่อปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมบางสาขาอาชีพที่มีความสำคัญในปัจจุบัน เช่น อาชีพด้านสุขภาพ และเสนอให้หน่วยงานรัฐร่วมมือกับภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้นเพื่อประโยนช์สูงสุดของการพัฒนากำลังเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ

            นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจำนวน ๕ คณะ เพื่อผลักดันการดำเนินงานตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติให้เกิดประสิทธิภาพนำไปสู่การปฏิบัติและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยที่ประชุมได้เสนอเพิ่มเติมให้ควบรวมคณะอนุกรรมการเหลือเพียง ๔ คณะ และปรับเปลี่ยนประธานและกรรมการในแต่ละคณะตามความเหมาะสม และเพิ่มเติมประเด็นที่สำคัญ เช่น การพัฒนาสาขาอาชีพการท่องเที่ยว และการซ่อมอากาศยาน รวมทั้งเร่งดำเนินงานขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติเพื่อพัฒนากำลังคนในประเทศโดยไวที่สุด โดยนัดประชุมครั้งต่อไปปลายเดือนตุลาคมนี้เพื่อติดตามการทำงานต่อไป