สกศ.เวิร์กช็อปถกร่างแผนการจัดการศึกษาเพื่อการผลิตและพัฒนากำลังคนตามช่วงวัย พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๗๐
วันนี้ (๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๓) รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์) ประธานเปิดการประชุมทางเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำแผนการจัดการศึกษาเพื่อการผลิตและพัฒนากำลังคนตามช่วงวัย พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๗๐” โดยผู้บริหารการศึกษา ผู้แทนภาคแรงงาน ผู้ประกอบการเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ ห้องธนบุรีฮอลล์ โรงแรมริเวอร์ไซด์ บางพลัด กรุงเทพ ฯ
ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ
แผนการจัดการศึกษาเพื่อการผลิตและพัฒนากำลังคนตามช่วงวัย พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๗๐ กำหนดวิสัยทัศน์ "กำลังคนเป็นคนดี มีงานทำ ก้าวทันโลก" โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผ่านการกลั่นกรองจากผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมกันยกร่างซึ่งผ่านการรับฟังความคิดเห็น ๔ ภูมิภาคมาแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมโยงแผนงานขับเคลื่อนหลักของ สกศ. ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงแผนการศึกษาแห่งชาติให้มีความทันสมัยสอดรับการเปลี่ยนแปลงปัจจุบัน ขณะที่แผนพัฒนาเด็กปฐมวัย และแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา อยู่ระหว่างปรับปรุงแต่ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้เพื่อหารือ
แนวคิดจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้านก่อนสรุปนำเสนอที่ประชุมสภาการศึกษา (กกส.) พิจารณาช่วงเดือนกันยายน ๒๕๖๓
ที่ประชุมร่วมกันอภิปรายอย่างกว้างขวางถึง (ร่าง) แผนการจัดการศึกษาเพื่อการผลิตและพัฒนากำลังคนตามช่วงวัย พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๗๐ ที่มีเป้าหมายครอบคลุม ๔ ช่วงวัย ๑) ปฐมวัย เริ่มตั้งแต่หญิงเริ่มตั้งครรภ์ โดยเด็กปฐมวัยได้รับการปลูกฝังและรับรู้เรื่องอาชีพ ๒) วัยเรียน/วัยรุ่น มุ่งให้เด็กวัยนี้เกิดความตระหนักรู้ มีความรู้ ความสามารถ ทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ สมรรถนะการทำงาน และคุณลักษณะที่พึงประสงค์และพร้อมเข้าสู่อาชีพ ๓) วัยแรงงาน ได้รับการยกระดับศักยภาพ ความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพความเปลี่ยนแปลงทางอาชีพและเทคโนโลยี และ ๔) ผู้สูงอายุ ได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีงานทำและพึ่งพาตนเอง ซึ่งมีแนวคิดหลากหลาย เช่น การใช้กลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทาง เศรษฐกิจ (กรอ.) เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อตอบโขทย์การพัฒนาประเทศอย่างตรงจุด
นอกจากนี้ ยังพิจารณา ๓ กลยุทธ์ขับเคลื่อนแผน ๑) เสริมศักยภาพกำลังครที่เหมาะสมตามช่วงวัย ๒) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดก่ร พัฒนากำลังคมตามช่วงวัย และ ๓) เสริมสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนในการผลิตและพัฒนากำลังคน โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของการจัดการศึกษาในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึง
รวมทั้งหารือถึงการปรับแนวทางการจัดการศึกษาที่เหมาะสมในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด ๑๙) เพื่อพัฒนากำลังแรงงานหรือทรัพยากรมนุษย์ ในรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจหรือการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ