เมื่อวันที่ (๑๖ มิถุนายน ) รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์) ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการปฏิรูปโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศึกษาครั้งที่ ๑/๒๕๖๓โดยมี (นายอภิมุข สุขประสิทธิ์) ประธานอนุกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมสิปปนนท์ เกตุทัต อาคาร ๒ ชั้น ๒ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

        ที่ประชุมได้มีการหารือใน ๓ ประเด็น ได้แก่ ๑) การกำหนดให้มีสถานศึกษาที่มีความเป็นอิสระ

ในการบริหารจัดการ ๒) การพัฒนาการจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ๓) การปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ

         ประเด็นการกำหนดให้มีสถานศึกษาที่มีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ ที่ประชุมมีข้อเสนอว่าควรพิจารณาในหลายเรื่อง เช่น กรอบข้อกฎหมายเพื่อการออกข้อบังคับในการบริหารจัดการในทางปฏิบัติ เพื่อให้สถานศึกษาเป็นนิติบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ การบริหารจัดการทรัพย์สิน การสร้างความเป็นอิสระของสถานศึกษาควรเริ่มจากสถานศึกษาที่มีความพร้อม ควรแยกการพิจารณาความเป็นนิติบุคคลกับความเป็นอิสระของสถานศึกษาออกจากกัน ความพร้อมของสถานศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินการให้อิสระแก่สถานศึกษา ขอบเขตในการให้ความเป็นอิสระแก่สถานศึกษา และอุปสรรคในการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน รวมทั้งความรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา โดยมติที่ประชุมเห็นว่า ควรให้ความเป็นอิสระในการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาเฉพาะเรื่อง โดยแบ่งพิจารณาเป็นประเภทและระดับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ว่ามีความต้องการอิสระในระดับใด ทั้งด้านอิสระวิชาการ งบประมาณ การบริหารจัดการ และบุคคล (โดยพิจารณาสถานศึกษาในสังกัด สอศ. ร่วมด้วย) เพื่อนำไปสู่การแก้ไขและปรับปรุงหรือจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการต่อไป

        ประเด็นการพัฒนาการจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ที่ประชุมได้หารือถึงอุปสรรคจากข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติ เช่น การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากรในสถานศึกษา ความเชื่อมต่อของการบังคับใช้กฎหมาย โครงสร้างกฎหมาย องค์ประกอบของ คณะกรรมการนโยบายฯ และความเชื่อมโยงการทำงานและประสานงานระหว่างสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา รวมทั้งระบบการเทียบโอนในการจัดการศึกษา

        โดยที่ประชุมมีข้อเสนอแนะในการให้ความเป็นอิสระโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษา อาทิ การจ้างครูหรือการจัดทำหลักสูตรที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ซึ่งที่ประชุมมีมติในประเด็นดังกล่าวว่า ควรพิจารณาโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาในปัจจุบันว่ามีความเหมาะสมกับบริบทในการดำเนินการหรือไม่ การพัฒนาการจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมควรดำเนินการในทิศทางใด กฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันมีความเหมาะสมในการบังคับใช้อยู่หรือไม่ ควรต้องดำเนินการปรับแก้อย่างไร และควรพิจารณาการให้ความเป็นอิสระในแต่ละด้าน เพื่อจะเป็นแนวทางต่อยอดในการพัฒนาการจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาต่อไป

        ส่วนประเด็นการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุมมีข้อเสนอว่า การปรับปรุงโครงสร้างควรต้องให้ความสำคัญในการปรับเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ความเป็นอิสระในการบริหารจัดการสถานศึกษาทั้งพื้นที่อื่น และพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา และแผนการปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ที่อนุกรรมการสภาการศึกษาเฉพาะกิจเพื่อการจัดทำข้อเสนอการปรับปรุงแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาจัดทำแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ จึงจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ

ท่านสามารถดูภาพบรรยากาศได้ที่นี่