สภาการศึกษา ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน- เพจการศึกษา สร้างแพลตฟอร์มแชร์ไอเดียเรียนรู้สู่มาตรฐานการศึกษาชาติ
วันนี้ (๑๖ มีนาคม ๒๕๖๓) เลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สุภัทร จำปาทอง) รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์) ร่วมการประชุมคณะทำงานส่งเสริมการพัฒนาสื่อดิจิทัลเพื่อนำมาตรฐานการศึกษาของชาติสู่การปฏิบัติ โดยมี ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน เป็นประธานคณะทำงาน ฯ พร้อมด้วย ประธานอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านมาตรฐานการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ (ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ หารหนองบัว) กรรมการสภาการศึกษาในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน (นายธาดา เศวตศิลา) ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ (นายสำเนา เนื้อทอง) ผู้แทนจากหน่วยงานการศึกษา ผู้แทนจากองค์กรต่าง ๆ อาทิ True Thai PBS สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย อินฟลูเอนเซอร์ และเพจการศึกษา Inskru ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ชั้น ๓ อาคาร ๕๖ ปี
ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า มาตรฐานการศึกษาของชาติกำหนดขึ้นในรูปแบบผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษา (Desired Outcome of Education : DOE) เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นผู้เรียนรู้ ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม และพลเมืองที่เข้มแข็ง สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนวิธีการประกันคุณภาพที่กำหนดโดยสถานศึกษาซึ่งหลายแห่งมีแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ที่เป็นต้นแบบการสอนได้ สกศ. จึงจะจัดทำเว็บลิงก์ (Web Link) เพื่อเชื่อมโยงสื่อดิจิทัลการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการศึกษาของชาติ ครอบคลุมทั้งในระดับการศึกษาปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา อุดมศึกษา รวมถึงการศึกษานอกระบบ เพื่อนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ สกศ. และสื่อสังคมออนไลน์ต่อไป โดยจะหารือถึงหลักเกณฑ์การคัดเลือกประเด็นที่จะนำเสนอ รวมถึงการจัดกลุ่มเนื้อหาเชื่อมโยงทั้งสื่อการสอนทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อนำจุดเด่นในแต่ละสื่อมาถ่ายทอดให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุดแก่วงการการศึกษา
ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ หารหนองบัว ประธานอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านมาตรฐานการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนวิธีจัดการเรียนการสอนที่มีระบบอ้างอิงผลงาน เพื่อสร้างระบบยกย่องและเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนครู นักเรียน และผู้ปกครองนำไปต่อยอดการเรียนรู้ที่ช่วยสร้างคุณลักษณะของคนไทย ๔.๐ ตามแนวทางของมาตรฐานการศึกษาชาติให้เกิดขึ้นจริง โดยจะเริ่มจากการคัดเลือกแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ที่ส่งผลต่อสาธารณชนและสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังของประชาคม ชุมชน และภาคเอกชน ร่วมกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน ๑ ปี ทั้งนี้ เป้าหมายของโครงการไม่ใช่การผลิตสื่อเพื่อป้อนความรู้ หรือเป็นการเพิ่มภาระงานของครู แต่เป็นการเชื่อมโยงต้นแบบการเรียนรู้ที่ถ่ายทอดผ่านมุมมองภาครัฐ เอกชน และเพจต่าง ๆ ให้เป็นชุมชนการเรียนรู้ของการนำมาตรฐานการศึกษาชาติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม