วันที่ 25 มีนาคม 2568 ดร.ภูมิพัทธ เรืองแหล่ ผู้ช่วยเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานการประชุมโครงการเสริมสร้างองค์ความรู้และการใช้กฎหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ครั้งที่ 2 เรื่อง เปลี่ยนโทษทางวินัยที่เอ๊ะ ให้กลายเป็นอ๋อ โดยมี นายมานนท์ วงค์มงคุณ นิติกรชำนาญการพิเศษ นางสาวกาญญ์ฐยากร อารยะสันติภาพ นิติกรชำนาญการพิเศษ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) ให้เกียรติเป็นวิทยากร พร้อมด้วยผู้อำนวยการ ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร สกศ. 

ดร.ภูมิพัทธ กล่าวว่า สกศ.ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทในการกำหนดนโยบาย ซึ่งในการปฏิบัติงานของหน่วยงานราชการนั้น สิ่งสำคัญคือ บุคลากรจำเป็นต้องรู้เรื่องกฎหมาย เพื่อให้หน่วยงานกำหนดนโยบายได้ถูกต้องในการออกข้อกฎหมาย การให้คำแนะนำที่ถูกต้องชัดเจน การประชุมวันนี้ถือเป็นประโยชน์ยิ่ง เพื่อให้บุคลากร สกศ.มีความรู้ในเรื่องกฎหมายและการใช้กฎหมายในการปฏิบัติงาน รวมทั้งองค์ความรู้เกี่ยวกับโทษทางวินัยข้าราชการที่พึงรู้พึงระวังเพื่อลดความเสี่ยงในการละเมิดข้อกฎหมายและเสริมสร้างประสิทธิภาพต่อการปฏิบัติงานมากขึ้น

ที่ประชุมรับฟังอภิปราย เรื่อง เปลี่ยนโทษทางวินัยที่เอ๊ะ ให้กลายเป็นอ๋อ โดยนายมานนท์ วงค์มงคุณ และนางสาวกาญญ์ฐยากร อารยะสันติภาพ ได้กล่าวถึง วินัยข้าราชการพลเรือนและข้อกำหนดวินัยที่เป็นความประพฤติที่บัญญัติไว้ให้ข้าราชการใช้ในการปฏิบัติงานหรือควบคุมตนเองในการปฏิบัติหน้าที่และมีความประพฤติที่ดี ลดความเสี่ยงความประพฤติที่ผิดวินัย ได้ยกพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ในมาตราต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้อบัญญัติวินัย การรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัย โดยคำนึงถึงวินัยในการปฏิบัติงาน ได้แก่ วินัยต่อประเทศชาติ ต่อผู้บังคับบัญชา ต่อตำแหน่งหน้าที่ ต่อผู้ร่วมงาน ต่อประชาชน และต่อตนเอง ทั้งนี้ข้าราชการต้องปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ เช่น แบบธรรมเนียม ระเบียบต่าง ๆ และข้อวินัยอื่น ๆ ผ่านกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เห็นมุมมองที่ชัดเจนและเข้าใจในกฎหมายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้บุคลากร สกศ. ได้รับความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับวินัยข้าราชการพลเรือนและตระหนักถึงการปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ถูกต้อง อันจะส่งผลให้การดำเนินงานของสกศ.มีประสิทธิภาพเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาของชาติต่อไป