ใต้ชายคา สภาการศึกษา : การยกระดับทุนมนุษย์ กุญแจสำคัญสู่ความสามารถในการแข่งขันของไทย

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจัดเสวนา “ใต้ชายคา สภาการศึกษา” ครั้งที่ 3/2568 โดยมี ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ศาสตราจารย์ ดร.เกื้อ วงศ์บุญสิน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา พร้อมทีมผู้บริหารและข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความท้าทายของระบบการศึกษาไทย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ณ ห้องประชุมสิปปนนท์ เกตุทัต สกศ.
ศาสตราจารย์ ดร.เกื้อ เปิดเผยว่า วิกฤตประชากรไทยมีอัตราการเกิดลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษา เนื่องจากประเทศไทยเผชิญภาวะประชากรหดตัว โดยจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่าจำนวนเด็กเกิดใหม่เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป คาดว่าประชากรไทยจะลดลงจาก 66 ล้านคน เหลือ 33 ล้านคน ภายในปี พ.ศ. 2626 (ค.ศ. 2083) ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็กจำนวนมากเผชิญภาวะจำนวนนักเรียนลดลง และแรงงานในอนาคตจะขาดแคลน
นอกจากนี้ กุญแจสำคัญสู่ความสามารถในการแข่งขันของไทย คือ การเพิ่มโอกาสและแนวทางพัฒนาทุนมนุษย์ แม้จำนวนประชากรลดลง แต่การศึกษาไทยยังมีโอกาสปรับตัว อาทิ การยกระดับคุณภาพการศึกษาโดยลดจำนวนสถานศึกษา ลดจำนวนนักเรียนต่อห้อง หรือการเพิ่มทรัพยากรทางการศึกษา ปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับประชากรทุกช่วงวัย และส่งเสริมเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ประเทศไทยต้องลงทุนพัฒนาทุนมนุษย์โดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพิ่มทักษะแรงงานเพื่อรองรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล และปรับนโยบายให้เหมาะสมกับโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน "การลงทุนในทุนมนุษย์เป็นทางออกสำคัญ หากประเทศไทยสามารถปรับตัวและพัฒนาทักษะแรงงานให้เท่าทันโลก ไทยจะสามารถเปลี่ยนผ่านจากสังคมผู้สูงอายุไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมได้"

