สกศ. ลงใต้ถกการจัดการศึกษาของเด็กต่างด้าว – ปฐมวัย - พื้นที่นวัตกรรม

เมื่อวันที่ 11-13 มีนาคม 2568 นายธฤติ ประสานสอน รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กต่างด้าว การจัดการศึกษาปฐมวัย และการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562” โดยมี นายเฉลิมชนม์ แน่นหนา ผู้ทรงคุณวุฒิ นายพิทักษ์ โสตถยาคม ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสื่อและการเรียนรู้ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการศึกษาพิเศษและผู้ด้อยโอกาส นายโกวิท คูพะเนียด ผู้อำนวยการสำนักนิติการ สป. พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ชุมพร ภูเก็ต พังงา และระนอง เข้าร่วมประชุมรูปแบบออนไลน์และออนกราวด์ ณ โรงแรมบรรจงบุรี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและรับฟังข้อคิดเห็นต่อประเด็นต่าง ๆ ทั้ง 3 ประเด็นดังนี้ 1) การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กต่างด้าว 2) การจัดการศึกษาปฐมวัย และ 3) การจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 เพื่อจัดทำข้อเสนอ การปรับปรุง แก้ไข กฎหมาย หรือข้อเสนอเชิงนโยบายของการจัดการศึกษา โดยได้จัดขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมและหลากหลายด้านการศึกษา โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการประชุม ควบคู่กับการจัดประชุมออนไลน์เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่มีส่วนร่วมต่อการรับฟังความคิดเห็น
วันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ประชุมร่วมกันอภิปราย “สภาพปัญหาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กต่างด้าว” พบว่าในหลายพื้นที่มีการจัดการศึกษาให้กับเด็กต่างด้าวและเด็กไร้สัญชาติอยู่ ซึ่งการจัดการศึกษาในรูปแบบดังกล่าวยังคงเผชิญกับอุปสรรคโดยเฉพาะรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่มีกำแพงทางภาษาและวัฒนธรรมเป็นความท้าทาย ตลอดจนโอกาสในการเข้าถึงทางการศึกษาที่บางสถานศึกษายังขาดแคลนบุคลากรหรืองบประมาณในการจัดการศึกษาแก่เด็กต่างด้าว ซึ่งนายธฤต กล่าวว่าเด็กต่างด้าวควรได้รับการจัดสรรอย่างเสมอภาคตามสิทธิในการได้รับการศึกษาของเด็กต่างด้าวและเด็กไร้สัญชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับ หลักสิทธิมนุษยชนและพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคี รวมถึงแนวคิด "ความเป็นพลเมืองโลก" (Global Citizenship) ที่มุ่งเน้นการให้โอกาสทางการศึกษากับทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ
หลังจากนั้น สกศ. ลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามประเด็นการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กต่างด้าว ณ โรงเรียนวัดสมหวัง พบการจัดการศึกษาให้กับนักเรียนต่างด้าวโดยเปิดโอกาสให้เด็กไร้สัญชาติสามารถเข้าเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้อย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตามได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่ายังคงมีเด็กต่างด้าวอีกเป็นจำนวนมากที่ยังอยู่ขาดโอกาสการได้รับการศึกษา ซึ่งเกิดจากข้อจำกัดด้านบุคลากรและงบประมาณ อุปสรรคทางกฎหมาย เอกสารรับรองตัวตน ปัญหาด้านภาษาและวัฒนธรรม โดย สกศ. จะนำข้อมูลเหล่านี้มาร่วมพิจารณาสำหรับการพัฒนากฎหมายการศึกษาต่อไปอย่างเสมอภาค
วันที่ 12 มีนาคม 2568 ที่ประชุมร่วมกันอภิปราย “สภาพปัญหาในการจัดการศึกษาปฐมวัย” สำหรับในประเด็นนี้ถือเป็นการรับฟังความคิดเห็นเพื่อ “ประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์พระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562” โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ปัญหาและผลกระทบของการดำเนินงานตามกฎหมายฉบับนี้ หลังจากที่บังคับใช้มาเป็นระยะเวลาห้าปี ซึ่งมีได้กำหนดการประเมินผลสัมฤทธิ์ในมิติต่าง ๆ ของกฎหมาย เช่น นิยามศัพท์ การกำหนดช่วงวัย แผนพัฒนาเด็กปฐมวัย คุณลักษณะของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย วัตถุประสงค์ของกฎหมาย การบูรณาการการให้บริการด้านสาธารณสุข จัดการศึกษา หรือจัดสวัสดิการ โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาร่วมแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ สกศ. ได้ให้ความรู้ความเข้าใจในนโยบาย “3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม” และรับฟังความเห็นประเด็นอื่น ๆ จากผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาปฐมวัย
หลังจากนี้ยังมีการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามด้านสภาพปัญหาในการจัดการศึกษาปฐมวัย ณ โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดโพธาวาส) และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดโพธาวาส) ทางโรงเรียนได้จัดนิทรรศการเพื่อแสดงศักยภาพของนักเรียนของตน โดยเฉพาะในการจัดการศึกษาให้กับเด็กปฐมวัยที่มีรูปแบบการบูรณาการความรู้และใช้สื่อการเรียนรู้ที่เหมาะกับช่วงวัย นอกจากนี้ยังพบนักเรียนปฐมวัยที่มีทักษะการแข่งขันจักรยานขาไถ ระดับประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยที่ต้องบูรณาการและได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่ายโดยจากทางผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้ “เรียนดี มีความสุข” เกิดพัฒนาการด้านร่างกาย สติปัญญา ด้านอารมณ์ และด้านสังคมอย่างรอบด้าน
วันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่ประชุมร่วมกันอภิปราย “สภาพปัญหาในการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562” โดยหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละจังหวัดมีคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นอาทิ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อประเมินผลการบังคับใช้ พรบ. ฉบับดังกล่าว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้สถานศึกษาในพื้นที่นำร่องสามารถบริหารจัดการได้อย่างยืดหยุ่นและสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการศึกษาได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม จากการอภิปรายพบว่ายังมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น กฎระเบียบที่ยังไม่เอื้อต่อการดำเนินงานของสถานศึกษา ข้อจำกัดด้านกฎหมายและการจัดสรรงบประมาณ ความเข้าใจในเจตนารมณ์ เหตุผล และแนวทางการดำเนินงานของการจัดการศึกษารูปแบบดังกล่าว ที่ประชุมจึงเสนอให้มีการปรับปรุงระเบียบและแนวปฏิบัติให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น สร้างความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หลังจากนั้น สกศ. ลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามประเด็นสภาพปัญหาในการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ณ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมเป็นสถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีการออกแบบหลักสูตรตามแนวคิดนวัตกรรม โดยมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา และผลคะแนน ONET ที่มากกว่าค่าเฉลี่ย โดยนักเรียนจะได้รับการส่งเสริมสนับสนุนเพื่อพัฒนานักเรียนไปสู่ความเป็นเลิศตามศักยภาพ พร้อมกับพบข้อค้นพบต่าง ๆ ในด้านนวัตกรรมการศึกษาหลายด้าน โดยนายเฉลิมชนม์ ได้ให้ความรู้ความเข้าใจต่อการจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยเฉพาะในด้านนิยามและแนวทางการเกิดขึ้นของคำว่า “นวัตกรรม” พร้อมรับฟังการนำเสนอผลการดำเนินงานและข้อคิดเห็นต่อกฎหมายฉบับดังกล่าว
การอภิปรายในครั้งนี้ช่วยให้เห็นถึงแนวทางสำคัญในการพัฒนาการศึกษาใน 3 ประเด็นหลัก ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า การขับเคลื่อนการศึกษาให้เกิดผลสำเร็จ ต้องอาศัยการบูรณาการจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและนำไปสู่การศึกษาที่ยั่งยืนสำหรับเด็กทุกคน การจัดการประชุมครั้งนี้เน้นย้ำความสำคัญของการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สะท้อนปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของพื้นที่ โดยข้อมูลที่ได้รับจะถูกนำไปใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนและพัฒนากฎหมายการศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การปรับปรุงนโยบายและมาตรการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

