เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ดร.กมล รอดคล้าย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมวุฒิสภาและประธานคณะทำงานจัดทำข้อเสนอทิศทางการศึกษาไทยที่สังคมคาดหวัง เป็นประธานการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำสมุดปกขาว (Whitepaper) ทิศทางการพัฒนาการศึกษาไทยที่สังคมคาดหวังจากผู้ที่เกี่ยวข้องใน 4 ภูมิภาค ครั้งที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี นายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ และมีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหาร ผู้แทนทุกภาคส่วน ได้แก่ นายวัชระ อันโยธา ศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น ผศ.ดร.วานิช ประเสริฐพร อนุกรรมการสภาการศึกษา ในฐานะคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รศ.ดร.อิศรา ก้านจักร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ดร.สนิท อาษาธง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด นายสิทธิศักดิ์ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดขอนแก่น บุคลาการทางการศึกษา ผู้ปกครองและผู้เรียน ผู้แทน Thai PBS และภาคีเครือข่ายภาคเอกชนในพื้นที่ และสกศ. เป็นฝ่ายเลขานุการฯรวมกว่า 70 คน เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมเลอ แคสเซีย จังหวัดขอนแก่น

การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองพัฒนาการศึกษาไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1. แนวทางเพิ่มคุณภาพของเด็กไทย 2. การดึงผู้มีศักยภาพสูงทั้งคนไทยและคนต่างประเทศมาช่วยพัฒนาประเทศ และ 3. พัฒนาระบบ Data Driven โดยจัดทำ Focus group แบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 นักการศึกษาในพื้นที่ กลุ่มที่ 2 ผู้บริหารศึกษาระดับสถานศึกษาและระดับหน่วยงานต้นสังกัดในพื้นที่ กลุ่มที่ 3 บุคลากรทางการศึกษา กลุ่มที่ 4 นักเรียนนักศึกษา และ กลุ่มที่ 5 ประชาชนทั่วไป สื่อมวลชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายในพื้นที่

ที่ประชุมมีการเสนอความคิดเห็นที่หลากหลาย ตั้งแต่ภาพเด็กไทยที่สังคมคาดหวังให้มีทักษะทางดิจิทัลพร้อมกับทักษะการยืดหยุ่นทางความคิด (Mind Flexibility) เพื่อให้รับมือกับภาวะโรคซึมเศร้าและความกดดันที่มาพร้อมกับโลกที่ทันสมัยและมีประเด็นท้าทายใหม่ ๆ มากขึ้น นอกจากนี้ยังเสนอให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างระบบนิเวศทางการเรียนรู้ (Learning Ecosystem) ที่ตอบโจทย์การรองรับและพัฒนานักเรียนและผู้มีศักยภาพสูงทั้งคนไทยและคนต่างชาติให้มีสังคมที่ปลอดภัยพร้อมสู่การพัฒนาด้านต่าง ๆ มีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ใช้สารเสพติดรวมถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น มีนักจิตวิทยาร่วมให้คำปรึกษา รวมถึงให้มีครูหรือแพลตฟอร์มแนะแนวที่ช่วยวางแผนการศึกษา การสมัครงาน รายได้ ตลอดจนแหล่งเรียนรู้ ที่มีการออกแบบแพลตฟอร์มให้สอดคล้องกับความต้องการของช่วงวัยต่าง ๆ เช่น เกม หรือ กราฟ Career Path และสามารถเข้าถึงได้สะดวก สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการคือ เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime)

คณะทำงานฯ จะเดินหน้าจัดประชุมอีก 2 ภูมิภาค สำหรับความคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ จะสรุปและนำไปรวมกับความคิดเห็นอีก 2 ภูมิภาค เพื่อวิเคราะห์ สังเคราะห์ จัดเป็น “ข้อเสนอทิศทางการศึกษาไทยที่สังคมคาดหวัง” เสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภาในช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ต่อไป