วันนี้ (๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดการประชุมคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้โดยการพลิกโฉมด้วยระบบดิจิทัล ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ โดยมี นายอรรถการ ตฤษณารังสี เป็นประธาน ฯ ศาสตราจารย์ ดร. สุพจน์ หารหนองบัว ประธานคณะทำงานที่ ๑ พลิกโฉมการเรียนรู้ด้วยระบบดิจิทัล รองศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ชัยเลิศ พิชิตพรชัย ประธานคณะทำงานที่ ๒ คณะทำงานขับเคลื่อน Big Data ด้านการศึกษา พร้อมด้วยนางรัชนี พึ่งพาณิชย์กุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการศึกษา ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และคณะทำงาน ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสำนักวิจัยและพัฒนาการศึกษา สกศ. และผ่านระบบออนไลน์

.
    ศาสตราจารย์ ดร. สุพจน์ หารหนองบัว ประธานคณะทำงานที่ ๑ พลิกโฉมการเรียนรู้ด้วยระบบดิจิทัล ได้นำเสนอถึงความร่วมมือกับ Inskru เว็บไซต์พื้นที่แบ่งปันไอเดียการสอน ในการจัดกิจกรรมที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเปิดพื้นที่การแลกเปลี่ยนความรู้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อได้ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษาครบทั้ง ๓ ตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ โดยจะดำเนินการปรับรูปแบบวิดีทัศน์ให้เป็นการ์ตูนที่ทันสมัยยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้หารือถึงข้อกังวลเรื่องขาดกำลังคนที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการระดมทุนเพื่อการศึกษาวิจัย จากนั้น ที่ประชุมได้รับฟังแนวทางการจัดทำ (ร่าง) พระราชบัญญัติการบริหารข้อมูลสารสนเทศเพื่อการศึกษา พ.ศ. ....... ทั้งหมด ๕ หมวด โดยมีตัวอย่าง (Model) ที่มุ่งเน้นการแก้ไขระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการศึกษา บูรณาการ รวบรวมและแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูล จัดทำแพลตฟอร์ม (Platform) แผนแม่บท และสร้างมาตรฐานข้อมูลเพื่อการบริหารข้อมูล รวมถึงจัดตั้งคณะกรรมการธรรมาภิบาลและคณะกรรมการการบริหารข้อมูลสารสนเทศเพื่อการศึกษา โดยฝ่ายกฎหมายจะนำไปปรับและพัฒนา (ร่าง) ดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมต่อไป

.
     ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาถึงข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ข้อเสนอในการพัฒนา Big data ด้านการศึกษา โดยคณะทำงานจะดำเนินการชี้แจ้งให้ทราบถึงความชัดเจนและประโยชน์ของการขับเคลื่อน Big Data ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมุ่งหวังให้เป็นฐานข้อมูลที่สามารถเรียกดู Dashboard ข้อมูลนักเรียน ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาอย่างรอบด้าน เพื่อประโยชน์ในการกำหนดนโยบาย ใช้วางแผนการพัฒนาระบบการศึกษาของชาติ และงบประมาณ ต่อยอดสู่การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต