เมื่อระหว่างวันที่ ๑๕ - ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประธานคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (ศาสตราจารย์ ดร. ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์) พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการฯ ผู้อำนวยการสำนักประเมินผลการจัดการศึกษา (นางศิริพร ศริพันธุ์) ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ (นายสำเนา เนื้อทอง) และข้าราชการ สกศ. ลงพื้นที่ประชุมระดมความคิดเห็น เรื่อง การบูรณาการความร่วมมือเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา : กรณีศึกษาจังหวัดเลย 

สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดเลยในครั้งนี้ คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา ได้แก่ โรงเรียนชุมชนบ้านผานกเค้า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมราษฎร์บำรุง โรงเรียนบ้านหนองหลวง-ชั่งสี่ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบข้อมูลสภาพความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ  และการสนับสนุนด้านทรัพยากรและความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา อันจะนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อไป 

ประธานคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (ศาสตราจารย์ ดร. ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์) กล่าวว่า จังหวัดเลยพบปัญหาและความด้อยโอกาสที่แตกต่างกันและมีความหลากหลาย ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่มีความสามารถในการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดีแม้ว่างบประมาณมีจำกัด อีกทั้งยังมีหลายฝ่ายให้ความสนใจและเข้ามาร่วมแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เช่น กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) ช่วยให้เกิดการทำงานเชิงรุกรวมถึงภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนโรงเรียนด้วย

การลงพื้นที่ครั้งนี้พบว่า กฎระเบียบหลักเกณฑ์ต่าง ๆ และการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม ส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำเช่นกัน โรงเรียนขนาดเล็กบางโรงมีวิธีแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาโดยการควบรวมโรงเรียน แต่ไม่ใช้คำว่าควบรวม เงื่อนไขสำคัญของความสำเร็จประการหนึ่งคือการจัดรถรับส่งนักเรียนต้องเป็นรถสภาพดีเพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจ และเกิดความร่วมมือ ซึ่งถือเป็นทางออกและไม่ได้สิ้นเปลือง ถ้าเทียบกับต้องเสียงบประมาณไปเลี้ยงโรงเรียนที่ด้อยประสิทธิภาพ เชื่อมั่นว่าจะมีทางออกที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาด้วยความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนที่พร้อมช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

หลังจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะลงพื้นที่ภาคใต้ และภาคตะวันออก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป