เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา โดยสำนักพัฒนากฎหมายการศึกษา จัดประชุมสัมมนา เรื่อง การส่งเสริมความรู้ด้านกฎหมายการศึกษาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ณ โรงแรมอีโค่ อินน์ ตรัง จังหวัดตรัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านกฎหมายและปรับปรุงกฎหมายการศึกษา การประชุมฯ ดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕ –๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ โดยมี นายสวัสดิ์ ภู่ทอง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากฎหมายการศึกษา เป็นประธานเปิดการประชุมฯ และนำเสนอ เรื่อง การปฏิบัติราชการทางปกครอง คดีปกครองที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นความก้าวหน้าของการปฏิรูปการศึกษาที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษากำลังขับเคลื่อน

          ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ นายสมบูรณ์ แต่งเกลี้ยง  นายวีระ พลอยครบุรี นายนิวัตต์ น้อยมณี นายอาทร ทองสวัสดิ์ นายมานิตย์ คณะโต หัวหน้ากลุ่มวินิจฉัยตีความกฎหมาย สำนักงาน ก.ค.ส. และนายประนัย วณิชชานนท์ ตุลาการศาลสูงสุด บรรยายพิเศษ เรื่อง วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและคดีปกครองที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ในส่วนของหลักความเป็นกลางในการพิจารณาคดีปกครอง

          นายสมบูรณ์ แต่งเกลี้ยง กล่าวว่า สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนในปัจจุบันมีหลายประการ อาทิ  ความรุนแรงในครอบครัว ความรุนแรงภายในสถานศึกษา แนวทางการแก้ไขจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน ชุมชน และครอบครัว โดยมิใช่ให้ภาระดังกล่าวตกเป็นเพียงความรับผิดชอบของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตที่ดีและที่สำคัญที่สุด คือ ครอบครัว

          นายนิวัตต์ น้อยมณี ให้ความเห็นว่า รัฐมีหน้าที่การจัดให้มีการบริการสาธารณะ ซึ่งการจัดการศึกษาเป็นการให้บริการทางสาธารณะประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้จัดการศึกษาจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบการบริการสาธารณะดังกล่าว โดยยึดหลักการบริการสาธารณะ เช่น มีความเสมอภาคในการให้บริการ มีความต่อเนื่องในการจัดการบริการสาธารณะสำหรับประชาชน และมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการบริการให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้ระบบการบริหารจัดการศึกษาเป็นไปอย่างมีคุณภาพ

          นายอาทร ทองสวัสดิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้กำหนดให้มีการปฏิรูปประเทศในหลายด้าน หนึ่งในนั้น คือ ด้านการศึกษา ซึ่งการปฏิรูปการศึกษาจำเป็นต้องมีการปฏิรูปทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการสถานศึกษา ซึ่งต้องให้สถานศึกษามีความอิสระในการบริหารจัดการโดยการส่งเสริมให้สถานศึกษาเป็นนิติบุคคล โดยมิใช่เพียงให้มีอิสระในการบริหารจัดการเท่านั้น แต่จำเป็นต้องให้ผู้บริหารศึกษามีความรับผิดชอบต่อการบริหารจัดการด้วย

          นายมานิตย์ คณะโต กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาต้องมีการปฏิรูปในหลายด้าน หนึ่งในนั้น คือ การปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ไม่ว่าจะเป็น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยเฉพาะในส่วนของพระราชบัญญัติครูและบุคลกรทางการศึกษา รวมไปถึงกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยตรง โดยได้มีการปรับแก้สาระสำคัญในส่วนที่เกี่ยวกับผู้บริหาร คือ คุณสมบัติ และการคัดเลือก การแต่งตั้งโยกย้าย การประเมินและพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคลากรที่มีคุณภาพและตรงกับสภาพบริบทของสถานศึกษาอย่างแท้จริง ซึ่งการปฏิรูปกฎหมายทั้งสองฉบับจะส่งผลประการสำคัญที่ทำให้การศึกษาของประเทศไทยทัดเทียมกับนานาประเทศ

          นายวีระ พลอยครบุรี   กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาจำเป็นต้องมีงานวิจัยเพื่อเป็นฐานขับเคลื่อนในการดำเนินการ ซึ่งตามร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ... เห็นว่าประเด็นสมัชชาการศึกษาจังหวัดเป็นกลไกสำคัญที่จำเป็นต้องสร้างเพื่อให้เกิดความร่วมมือทางการศึกษา และจำเป็นต้องใช้ผลการวิจัยที่ผ่านมา มาเป็นตัวช่วยผลักดันเพื่อให้เกิดความสำเร็จ