วันที่ (๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๑) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เข้าสู่ระบบราชการ ๔.๐ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา ได้ดำเนินงานขับเคลื่อน สกศ. โดยจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ประเด็น “การบูรณาการความร่วมมือด้านการศึกษาเพื่อขับเคลื่อนบทบาทภารกิจของภาครัฐสู่ระบบราชการ ๔.๐” โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี (นายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล) ให้การต้อนรับและกล่าวเปิดการประชุม วิทยากรประกอบด้วย นายธวัชชัย อุ่ยพานิช รองศึกษาธิการภาค รักษาราชการในตำแหน่งศึกษาธิการภาค 9 นายเศรษฐา เสนะวงศ์ รองศึกษาธิการจังหวัด รักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดจันทบุรี พ.อ.อรรถพล วัฒนลักขี ผู้อำนวยการส่วนแผนและปฏิบัติการ ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กอ.รมน. และนางพิจารณา ศิริชานนท์ นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร สกศ. เป็นผู้ดำเนินการประชุม ณ โรงแรม เคพี แกรนด์ จังหวัดจันทบุรี
               นายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวเปิดการอภิปรายและบรรยายพิเศษตอนหนึ่งว่า ประเด็นการศึกษาเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนของสังคมให้ความสำคัญ แผนการศึกษาแห่งชาติ ๒๐ ปี มีเนื้อหาที่ครอบคลุมเกือบทุกด้าน การพัฒนาสติปัญญา ความรู้ อารมณ์ ร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญที่กำหนดรายละเอียด วิธีการดำเนินการ วิธีการปฏิบัติ ภาพรวมที่สามารถนำไปปฏิบัติ สำหรับในอนาคตการจะต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องวางเนื้อหาความเชื่อมโยงที่หลากหลาย ทั้งแนวคิด มีการบูรณาการร่วมกัน มีการติดต่อประสานงานร่วมกัน การเชื่อมโยงการบูรณาการร่วมกัน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ซึ่งภาพการศึกษาจังหวัด มีโครงสร้างระดับจังหวัด อำเภอ การบริหารจัดการ ผู้นำในการจัดการบูรณาการ จะเกิดขึ้นจากส่วนกลาง ภาค ท้องถิ่น ซึ่งแนวคิดของรัฐบาลจะสามารถเข้ามาบูรณาการทุกเรื่องเพื่อให้การบริหารจัดการรวมถึงการใช้จ่ายงประมาณมีประสิทธิภาพ
               นางพิจารณา ศิริชานนท์ นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร สกศ. 
กล่าวว่าวัตถุประสงค์ที่ สกศ. ลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของทุกภาคส่วนของราชการที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา  ร่วมกันบริหารการเปลี่ยนแปลงขับเคลื่อนภารกิจของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าสู่ระบบราชการ ๔.๐ การปฏิรูประบบราชการเพื่อรองรับ Thailand ๔.๐ ภาครัฐหรือระบบราชการจะต้องทำงานยึดหลักธรรมาภิบาลเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ราชการต้องมีการวางระบบและวิธีการทำงานใหม่ ทำงานโปร่งใส ทำงานเชิงรุกมองไปข้างหน้า ต้องเปิดกว้างเชื่อมโยงกัน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำให้เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจ และเป็นที่พึ่งของประชาชน มีจิตสำนึกความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ มุ่งเน้นความซื่อสัตย์สุจริตและคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ และต้องจัดระเบียบโครงสร้างใหม่ให้สมดุล มีความสัมพันธ์ระหว่างกลไกภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่น ๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เปิดกว้างให้ภาคส่วนอื่น ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วม มีแนวทางการทำงานแบบบูรณาการระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สามารถทำงานร่วมกันแบบประสานพลังประชารัฐ รวมทั้งการออกแบบโครงสร้างภายในภาครัฐให้กระชับและไม่เกิดความซ้ำซ้อน สกศ. ฐานะองค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการทำหน้าที่กำหนดนโยบายด้านการศึกษาของประเทศ จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญการทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานราชการ
               ผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ มีหน่วยงานภาคราชการ ผู้บริหาร บุคลากรจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ภาคส่วนราชการจังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ตราด ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว โดยมีหน่วยงานเข้าร่วม อาทิ สำนักงานศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงาน กศน.จังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด  สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนา สำนักงานจัดหางานจังหวัด มหาวิทยาลัย วิทยาลัยพยาบาล วิทยาลัยการอาชีพ วิทยาลัยนาฏศิลป์ วิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยสารพัดช่าง ศูนย์การศึกษาพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน มากกว่า ๘๐ คน
               สำหรับภาคบ่ายมีการแบ่งกลุ่มประชุมเชิงปฏิบัติการประเด็น “บทบาทของภาครัฐกับการปฏิรูปการศึกษา” ๙ กลุ่ม ดังนี้ Good Practice ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนระดับก่อนประถมศึกษาหรือระดับประถมศึกษา โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สถาบันอาชีวศึกษา สถาบันอุดมศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม สถานศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรม สถานศึกษาด้านกีฬา และสถานศึกษาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และประเด็นข้อมูลที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจะนำไปสังเคราะห์รวมกับอีก ๓ ภาค ได้แก่ ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคเหนือ จังหวัดแพร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองคาย เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการบริหารจัดการด้านการศึกษาทั้งองค์การรองรับระบบราชการ ๔.๐ เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ประเทศต่อไป