ประกาศ หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ

ประกาศสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ

          ด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาในคณะกรรมการสภาการศึกษา ได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษาก่อนครบวาระ จึงต้องดำเนินการสรรหา เลือก และแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ตามข้อ ๘ ของกฎกระทรวงกำหนดจำนวนกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ กำหนดให้ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ให้ดำเนินการสรรหา เลือก และแต่งตั้งกรรมการแทนภายในหกสิบวันนับแต่วันที่กรรมการพ้นจากตำแหน่ง
          อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๕ ของกฎกระทรวงกำหนดจำนวนกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ กำหนดให้ หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาและการเลือกกรรมการ นอกจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงนี้ ให้เป็นไปตามประกาศของเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จึงประกาศหลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการ ในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ดังต่อไปนี้

          ข้อ ๑ ในประกาศนี้
          คณะกรรมการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ หมายถึง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และเลขาธิการสภาการศึกษา
          ข้อ ๒ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเสนอชื่อ หรือการสมัครเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการสรรหาและเลือกกรรมการสภาการศึกษาที่เลขาธิการสภาการศึกษาแต่งตั้งเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด และคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการนั้น ถือเป็นที่สุด
          ข้อ ๓ การสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิให้สรรหาจากผู้สมัคร และผู้ได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการ สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ
          ข้อ ๔ ผู้สมัครหรือผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
                    (๑) มีสัญชาติไทย
                    (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่า ๓๕ ปีบริบูรณ์ นับถึงวันปิดรับสมัคร
                    (๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
                    (๔) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
                    (๕) ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียทางจริยธรรม จรรยาบรรณ และการประกอบวิชาชีพ
                    (๖) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
                    (๗) เป็นที่ยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์และความยุติธรรม
                    (๘) มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงในด้านการศึกษา
          ผู้สมัครต้องไม่เคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภาการศึกษา ติดต่อกันเกิน ๒ วาระ และ ในการสมัคร ผู้สมัครต้องรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน
          ใบสมัครให้ใช้แบบ สกศ. ๑ (สำหรับผู้สมัครด้วยตนเอง) ท้ายประกาศนี้
          ข้อ ๕ ผู้ที่มีความประสงค์จะสมัครสามารถติดต่อขอรับใบสมัคร แบบ สกศ. ๑ ได้ที่ กลุ่มเลขานุการคณะกรรมการสภาการศึกษา อาคาร ๑ ชั้น ๓ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ โทร. ๐-๒๖๖๘-๗๑๒๓ ต่อ ๑๓๔๓ , ๑๓๕๐ หรือดาวน์โหลดใบสมัคร แบบ สกศ. ๑ ทางเว็บไซต์ www.onec.go.th และ www.moe.go.th
          ข้อ ๖ การสมัครให้สมัคร ตั้งแต่วันที่ ๑๓ – ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ โดยกระทำได้สองวิธี ดังนี้
                    (๑) ยื่นใบสมัครโดยตรงที่กลุ่มเลขานุการคณะกรรมการสภาการศึกษา อาคาร ๑ ชั้น ๓ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ ภายในวันที่กำหนด ในเวลาราชการ หรือ
                    (๒) ส่งทางไปรษณีย์แบบด่วนพิเศษ (EMS) ไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เลขที่ ๙๙/๒๐ ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โดยถือวันที่ไปรษณีย์ประทับตราไม่เกินวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ในเวลาราชการ หากเกินกำหนด ใบสมัครนั้นจะไม่ได้รับการพิจารณา
          ข้อ ๗ ผู้สมัครจะต้องส่งใบสมัครพร้อมเอกสาร ดังนี้
                    (๑) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือหลักฐาน อื่นใดของทางราชการที่มีรูปถ่ายสามารถแสดงตนได้
                    (๒) สำเนาทะเบียนบ้าน
                    (๓) รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว (รูปถ่ายไม่เกิน ๖ เดือน) จำนวน ๓ รูป โดยติดไว้ในใบสมัคร ๑ รูปและแนบไปด้วย ๒ รูป
           โดยเอกสาร (๑) และ (๒) ต้องให้ผู้สมัครเป็นผู้รับรองความถูกต้องของเอกสารทุกแผ่น ทั้งนี้หากผู้สมัครท่านใดไม่ได้แสดงหลักฐานดังกล่าว ผู้สมัครผู้นั้นจะไม่ได้รับการประกาศชื่อว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน
          ข้อ ๘ ให้คณะกรรมการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ เสนอรายชื่อผู้ที่เห็นสมควรเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และมีคุณสมบัติตามข้อ ๔ พร้อมเอกสารตามข้อ ๗ โดยให้ใช้ใบสมัครตาม แบบ สกศ. ๒ (สำหรับกรรมการสรรหาเสนอชื่อ) ท้ายประกาศนี้ ไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ภายในวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ในเวลาราชการ
          ข้อ ๙ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจะประกาศรายชื่อผู้สมัคร แบบ สกศ. ๑ ภายในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ทางเว็บไซต์ www.onec.go.th และ www.moe.go.th
          ข้อ ๑๐ ให้คณะกรรมการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ สรรหาผู้มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงด้านการศึกษา จากผู้สมัคร แบบ สกศ. ๑ และหรือแบบ สกศ. ๒ ให้เหลือจำนวนสองคน เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเลือกให้เหลือหนึ่งคน
          ข้อ ๑๑ หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาตามข้อ ๑๐ ให้เป็นไปตามมติเสียงข้างมาก ของคณะกรรมการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ

ประกาศ ณ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓

ดาวน์โหลด ประกาศสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ที่เกี่ยวข้อง
             ๑. ประกาศสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ
             ๒. แบบ สกศ. ๑ ใบสมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการศึกษา ในคณะกรรมการสภาการศึกษา

image

ภารกิจ ผู้บริหาร ดูทั้งหมด

image

ข่าว สกศ. ดูทั้งหมด